ใส่แล้วเฮง! กับสีเสื้อมงคลต้อนรับปี 2567
ใส่แล้วเฮง! กับสีเสื้อมงคลต้อนรับปี 2567 🎉 สีไหนใส่แล้วรุ่ง 👍 สีไหนใส่แล้วปัง 💥 มาดูกันเลย! . . เริ่มต้นปีด้วยความเป็นสิริมงคล ✨ เอาฤกษ์เอาชัย ด้วยการใส่เสื้อสีให้ตรงกับวัน 👕 รับทรัพย์ตลอดปี งานพุ่ง ✨ รุ่งแบบฉุดไม่อยู่ สีไหนใส่แล้วเสริมมงคล สีไหนควรเลี่ยง เช็คได้ที่ตารางนี้เลย สุขกายสุขใจตลอดปี 💕 มีความสุขในทุกๆวัน เงินทองและโชคลาภ 💰 ไหลมาเทมาต้อนรับปีมังกรทอง 🐉
รู้หรือไม่? ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายของเรา
พอถึงสิ้นปีทีไรปัญหาเรื่องฝุ่นก็วนกลับมาให้เราได้กังวลใจอีกครั้งเป็นประจำแบบนี้ทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง การป้องกันและเตรียมรับมือกับฝุ่น จึงเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่พึงปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ วันนี้ อรสิริน จะมาบอกถึงผลกระทบต่อร่างกายที่มาพร้อมกับอันตรายของฝุ่น หากเราไม่ป้องกันให้ถูกวิธี ฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กมากพอที่จะ หายใจเช้าไปสู่ปอด เข้าสู่กระแสเลือด ตาแดง เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ ทำให้เกิดภาวะอีมพาต หรือเสียชีวิต ไอเจ็บคอ หายใจแล้วมีเสียงฟิดฟาด เลือดกำเดาไหล ซึ่งหากเลือดกำเดาลงคคอ ก็จะทำให้เสมหะมีเลือดเจือปน ทะลุผ่านปอด เข้าสู่กระแสเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ทำให้หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดปกติ ปอดอักเสบ โรคถุงลมโป่งพอง ผิวหนัง เกิดผืนคัน เข้าสู่ในรกทำอันตรายเด็กในท้อง ทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด ทุพโภชนาการ
สีห้องแบบไหน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่คุณเลือกได้เอง
การเลือกใช้สีห้องถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะ ทุกสีมีความหมาย สีทุกห้องที่เราเลือกให้กับบ้านของคุณ นอกจากสวยงามเข้ากับตัวบ้านและโครงการแล้ว แต่ละสียังเป็นตัวช่วยที่สามารถสร้างอารมณ์ ความรู้สึก ส่งเสริมพลังบวกให้ได้ วันนี้อรสิริน จะพาทุกคนมาดู โทนสีห้อง ที่ใช้นำมาตกแต่งผนังห้องให้ห้องสวย แถมยังช่วยเสริมโชคให้กับเราอีกด้วย
จัดบ้านเราให้ผ่อนคลายและน่าอยู่กันดีกว่า
จัดบ้านเรา ให้ผ่อนคลายและน่าอยู่ เทคนิคที่ทำให้บ้านน่าอยู่นั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่คัดสรร จับนู้นวางนี่ และใช้โทนสีที่เหมาะสม
“5 ทริค”…ให้บ้านสวยเหมือนใหม่ อยู่สบายใจไร้กังวล!
[vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] "5 ทริค"
STAYHOME : HOW TO “อยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ”
[vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] 💬 เนื่องจาก
5 วิธี เปลี่ยนกลิ่นเหม็นอับในบ้าน ให้กลับมาสดชื่น
1.ก้อนดับกลิ่นทำมือ ถ้าไม่อยากใช้สเปรย์ปรับอากาศทั่วไปหรือน้ำหอมปรับอากาศที่ระคายเคือง ให้นำตะไคร้สด ชิงสด และข่าสด หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือใช้ครกตำสมุนไพรเหล่านี้แบบไม่ต้องละเอียดมาก และห่อด้วยผ้าขาวบางในลักษณะเป็นก้อนกลมแบบลูกประคบ หลังจากนั้น เราสามารถนำก้อนดับกลิ่นทำมือไปแขวนในห้องที่มีกลิ่นอับ เพื่อให้ช่วยดูดซับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ของคู่ครัวสารพัดประโยชน์ • น้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้ ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า • เบคกิ้งโซดา แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้บรรยากาศบ้านไม่สุนทรีย์ โดยโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน ก่อนจะนำรองเท้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและเทผงเบคกิ้งโซดาทิ้ง โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้หมึกพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น 3. สำรวจหาต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระยะยาว เราควรพิจารณาหาต้นเหตุของกลิ่น และกำจัดให้ถูกต้อง เช่น กลิ่นในห้องครัวที่ทำอาหารอันเนื่องมาจากถังขยะ แม้จะปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็ยังไม่รอดพ้นจากกลิ่นเหม็น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำมะนาวฝานทิ้งลงถังขยะ หรือใช้ใช้หนังสือพิมพ์รองก้นถังขยะ และปิดฝาถังให้มิดเพื่อป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย • ส่วนกลิ่นในห้องครัวที่มาจากอาหารไหม้ เราสามารถใช้มะนาวฝานต้มน้ำในกระทะ เพื่อให้กลิ่นหอมของมะนาวช่วยดับกลิ่นไหม้ได้ ทั้งยังสามารถช่วยดับกลิ่นอาหารที่ติดไมโครเวฟได้เช่นกัน การนำมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นบางๆในลงในน้ำเดือดและตั้งทิ้งไว้แบบปิดฝาให้ไอน้ำระเหยออกมา ทำให้กลิ่นในห้องครัวดีขึ้น • สำหรับกลิ่นที่เกิดขึ้นในตู้เย็น เราควรใช้ถ่านหุงข้าววางไว้ชั้นบนข้างในตู้เย็น โดยดึงปลั๊กตู้เย็นออกก่อนและเปิดประตูแง้มไว้ให้อากาศถ่ายเท • รวมถึงใช้ผงกาแฟเทใส่ถ้วยเป็นตัวช่วย
4 วิธีง่ายๆ “ดูแลพรมในบ้าน”…ให้สะอาดปราศจากฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ
1.น้ำส้มสายชู หากเราเผลอทำอาหารหรือน้ำหกใส่พรม ควรรีบทำความสะอาดเพื่อไม่ให้คราบนั้นฝังแน่นลงในพรม โดยให้ใช้กระดาษเช็ดคราบออกเป็นอันดับแรก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า แล้วเช็ดคราบอีกครั้ง ทำวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคราบจาง และสุดท้ายทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นค่ะ 2. ทำความสะอาดพรมเป็นประจำ ยิ่งทำความสะอาดก็ยิ่งช่วยลดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ในพรมไปในตัว ควรดูดฝุ่นพรม สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ 3. ดูดฝุ่นพรม อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย หมั่นดูดฝุ่นทำความสะอาดพรม เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ถ้าอยากให้ดี ให้ฉีดน้ำยาสำหรับพรมโดยเฉพาะก่อนที่เราจะเริ่มดูดฝุ่นถือเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยดับกลิ่นพรมได้อีกด้วยค่ะ 4.จ้างมืออาชีพ เนื่องจากเครื่องทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะของมืออาชีพ จะช่วยให้พรมของเรานั้นสะอาดแบบล้ำลึก ปราศจากฝุ่น แถมยังช่วยกำจัดเชื้อราที่ซ่อนตัวอยู่ในพรมได้อีกด้วยค่ะ
ข้อควรระวัง ใครชอบพาหมาหรือแมวเข้ามาในห้องนอน
ทั้งแมวและสุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงที่เรารักเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ไม่ว่าไปไหนก็ต้องพาไปด้วยตลอด แม้เวลานอน ก็ยังนอนด้วยกัน เพื่อความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย แต่…ก็ยังไม่วายเรื่องปัญหาสุขอนามัย ที่ต้องควรเฝ้าระวังอยู่ตลอด. ไม่ให้เกิดขึ้นกับคุณและสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก 1. ขนสัตว์เลี้ยงอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนังได้ โดยเฉพาะแมวที่ขนร่วงง่ายกว่าสุนัข ขนของแมวอาจติดอยู่บนปลอกหมอนและผ้าห่ม หากนอนไปนานๆ อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นกวาดห้องนอน ถูพื้น และดูดฝุ่นให้สะอาดอยู่เสมอ 2. อาจมีกลิ่นสะสมอยู่ในห้องนอน เรื่องการขับถ่ายของสัตว์เลี้ยง ก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถส่งกลิ่นได้ ยิ่งถ้าห้องนอนเป็นห้องแอร์และมีกลิ่นอบอวลอยู่ทั่วห้อง คุณคงนอนไม่หลับเป็นแน่ ดังนั้นวิธีการป้องกัน คือให้ซื้อสเปรย์หอมดับกลิ่น(สูตรที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง)มาฉีดพ่นเป็นบางบริเวณบนห้อง หรือในกระบะทรายแมว ส่วนของสุนัขให้หมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมแผ่นและถูพื้นบริเวณที่มีปัสสาวะบ่อยๆ และใช้สเปรย์ดับกลิ่นฉีดทับเข้าไปอีกที 3. สัตว์เลี้ยงอาจทำลายข้าวของของคุณ สำหรับสัตว์เลี้ยงบางตัว โดยเฉพาะลูกแมวและลูกสุนัข อาจมีพฤติกรรมซุกซน ชอบกัด ชอบตะปบ จึงควรหาของเล่นเตรียมไว้ให้สัตว์เลี้ยงเล่น เช่น ลูกบอล เชือก ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปเล่นกับข้าวของเครื่องใช้ของคุณ 4. การสูดหายใจเอาขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปมากๆไม่ใช่เรื่องดี อาจจะไม่ถึงกับสูดเข้าไปจนถึงปอดหรือหลอดลม แต่การที่คุณต้องนอนกับขนสัตว์เลี้ยงทุกวัน อย่างเบื้องต้นสุดก็อาจจะระคายเคืองโพรงจมูก และจามบ่อยๆ วิธีป้องกันจึงคล้ายกับข้อแรกคือ อย่าละเลยเรื่องการทำความสะอาดห้องนอนและมุมต่างๆของคุณ 5. สัตว์เลี้ยงอาจทำที่นอนคุณสกปรก สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจเท้าเปื้อนมาแล้วมาเหยียบบนที่นอน ดังนั้นคุณต้องหมั่นสังเกต แล้วซักทำความสะอาดที่นอนทันทีที่เห็นคราบเปื้อน นอกจากนี้ยังควรฝึกวินัยสัตว์เลี้ยง ให้ขับถ่ายในที่ที่จัดไว้ให้ และพยายามอย่าให้สัตว์เลี้ยงไปคลุกคลีกับสิ่งสกปรกเด็ดขาด ขอบคุณที่มา