สีห้องแบบไหน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่คุณเลือกได้เอง
การเลือกใช้สีห้องถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะ ทุกสีมีความหมาย สีทุกห้องที่เราเลือกให้กับบ้านของคุณ นอกจากสวยงามเข้ากับตัวบ้านและโครงการแล้ว แต่ละสียังเป็นตัวช่วยที่สามารถสร้างอารมณ์ ความรู้สึก ส่งเสริมพลังบวกให้ได้ วันนี้อรสิริน จะพาทุกคนมาดู โทนสีห้อง ที่ใช้นำมาตกแต่งผนังห้องให้ห้องสวย แถมยังช่วยเสริมโชคให้กับเราอีกด้วย
จัดบ้านเราให้ผ่อนคลายและน่าอยู่กันดีกว่า
จัดบ้านเรา ให้ผ่อนคลายและน่าอยู่ เทคนิคที่ทำให้บ้านน่าอยู่นั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่คัดสรร จับนู้นวางนี่ และใช้โทนสีที่เหมาะสม
5 วิธี เปลี่ยนกลิ่นเหม็นอับในบ้าน ให้กลับมาสดชื่น
1.ก้อนดับกลิ่นทำมือ ถ้าไม่อยากใช้สเปรย์ปรับอากาศทั่วไปหรือน้ำหอมปรับอากาศที่ระคายเคือง ให้นำตะไคร้สด ชิงสด และข่าสด หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือใช้ครกตำสมุนไพรเหล่านี้แบบไม่ต้องละเอียดมาก และห่อด้วยผ้าขาวบางในลักษณะเป็นก้อนกลมแบบลูกประคบ หลังจากนั้น เราสามารถนำก้อนดับกลิ่นทำมือไปแขวนในห้องที่มีกลิ่นอับ เพื่อให้ช่วยดูดซับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ของคู่ครัวสารพัดประโยชน์ • น้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้ ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า • เบคกิ้งโซดา แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้บรรยากาศบ้านไม่สุนทรีย์ โดยโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน ก่อนจะนำรองเท้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและเทผงเบคกิ้งโซดาทิ้ง โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้หมึกพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น 3. สำรวจหาต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระยะยาว เราควรพิจารณาหาต้นเหตุของกลิ่น และกำจัดให้ถูกต้อง เช่น กลิ่นในห้องครัวที่ทำอาหารอันเนื่องมาจากถังขยะ แม้จะปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็ยังไม่รอดพ้นจากกลิ่นเหม็น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำมะนาวฝานทิ้งลงถังขยะ หรือใช้ใช้หนังสือพิมพ์รองก้นถังขยะ และปิดฝาถังให้มิดเพื่อป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย • ส่วนกลิ่นในห้องครัวที่มาจากอาหารไหม้ เราสามารถใช้มะนาวฝานต้มน้ำในกระทะ เพื่อให้กลิ่นหอมของมะนาวช่วยดับกลิ่นไหม้ได้ ทั้งยังสามารถช่วยดับกลิ่นอาหารที่ติดไมโครเวฟได้เช่นกัน การนำมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นบางๆในลงในน้ำเดือดและตั้งทิ้งไว้แบบปิดฝาให้ไอน้ำระเหยออกมา ทำให้กลิ่นในห้องครัวดีขึ้น • สำหรับกลิ่นที่เกิดขึ้นในตู้เย็น เราควรใช้ถ่านหุงข้าววางไว้ชั้นบนข้างในตู้เย็น โดยดึงปลั๊กตู้เย็นออกก่อนและเปิดประตูแง้มไว้ให้อากาศถ่ายเท • รวมถึงใช้ผงกาแฟเทใส่ถ้วยเป็นตัวช่วย
4 วิธีง่ายๆ “ดูแลพรมในบ้าน”…ให้สะอาดปราศจากฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ
1.น้ำส้มสายชู หากเราเผลอทำอาหารหรือน้ำหกใส่พรม ควรรีบทำความสะอาดเพื่อไม่ให้คราบนั้นฝังแน่นลงในพรม โดยให้ใช้กระดาษเช็ดคราบออกเป็นอันดับแรก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า แล้วเช็ดคราบอีกครั้ง ทำวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคราบจาง และสุดท้ายทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นค่ะ 2. ทำความสะอาดพรมเป็นประจำ ยิ่งทำความสะอาดก็ยิ่งช่วยลดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ในพรมไปในตัว ควรดูดฝุ่นพรม สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ 3. ดูดฝุ่นพรม อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย หมั่นดูดฝุ่นทำความสะอาดพรม เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ถ้าอยากให้ดี ให้ฉีดน้ำยาสำหรับพรมโดยเฉพาะก่อนที่เราจะเริ่มดูดฝุ่นถือเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยดับกลิ่นพรมได้อีกด้วยค่ะ 4.จ้างมืออาชีพ เนื่องจากเครื่องทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะของมืออาชีพ จะช่วยให้พรมของเรานั้นสะอาดแบบล้ำลึก ปราศจากฝุ่น แถมยังช่วยกำจัดเชื้อราที่ซ่อนตัวอยู่ในพรมได้อีกด้วยค่ะ