ตกแต่งบ้าน สไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) วิธีการนั้นมีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนถึงความเรียบง่าย ความสะอาดตา และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ นี่คือเคล็ดลับในการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้

ตกแต่งบ้าน
- โทนสี: ใช้โทนสีอ่อน เช่น ขาว เทา เบจ และสีน้ำเงินอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
- แสงธรรมชาติ: ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น การเลือกใช้ผ้าม่านเบาและโปร่ง เพื่อให้แสงส่องเข้ามาในบ้าน
- วัสดุธรรมชาติ: เลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น ไม้ หนัง และปูนขาว ซึ่งสร้างความรู้สึกอบอุ่น
- เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย: เฟอร์นิเจอร์ควรมีดีไซน์เรียบง่ายและฟังก์ชันที่ชัดเจน เช่น โต๊ะไม้สไตล์สแกนดิเนเวีย
- การใช้งานที่หลากหลาย: สร้างพื้นที่ทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น มุมอ่านหนังสือ หรือมุมทำงานที่สะดวก
- ตกแต่งด้วยต้นไม้: เพิ่มพืชในบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศสดชื่นและช่วยฟอกอากาศ
- ศิลปะและงานฝีมือ: ใช้ผลงานศิลปะหรือสินค้างานฝีมือที่มีดีไซน์น้อย เพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับบ้าน
- อุปกรณ์เสริม: เลือกอุปกรณ์และเครื่องใช้ในบ้านที่มีดีไซน์เรียบง่าย เช่น โคมไฟหรือพรมที่เน้นโทนสีธรรมชาติ
“บ้านสไตล์นอร์ดิก” กับเมืองไทย: 4 ข้อต้องรู้ ก่อนตัดสินใจสร้าง เพื่อไม่ให้บ้านร้อนและรั่ว
ความนิยมของ “บ้านสไตล์นอร์ดิก” (Nordic Style) ในไทยไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความสวยงามที่ดูมินิมอลและอบอุ่นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับคำถามสำคัญว่า “ดีไซน์เมืองหนาวจะอยู่รอดในเมืองร้อนและฝนชุกอย่างบ้านเราได้จริงหรือ?” เพื่อให้คุณได้บ้านที่สวยและอยู่สบายจริง นี่คือสิ่งที่ต้องพิจารณาและปรับใช้ (Adaptation) ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทย:
1. แก้ปัญหา “หลังคาไร้ชายคา” ด้วยสไตล์ Tropical Nordic
เอกลักษณ์ของบ้านนอร์ดิกคือหลังคาทรงจั่วสูงแบบไม่มีชายคา (Barn House) ซึ่งสวยงามแต่อาจก่อปัญหาในไทย เช่น ฝนสาดผนัง และน้ำรั่วซึมตามขอบหน้าต่าง การแก้ปัญหาตามหลักสถาปัตยกรรมเขตร้อนคือการเลือกแบบบ้านที่เป็น “Tropical Nordic” ซึ่งมีการเติมชายคายื่นออกมาเล็กน้อย หรือติดตั้งรางน้ำฝนแบบซ่อนรูป เพื่อกันฝนสาดโดยที่ยังคงเส้นสายความเรียบเท่แบบนอร์ดิกไว้
2. ช่องแสงบานใหญ่ ต้องมาพร้อมทิศทางที่ถูกหลัก
บ้านสไตล์นี้เน้นการเปิดรับแสงธรรมชาติ (Natural Light) ผ่านกระจกบานใหญ่ แต่แดดเมืองไทยมีความร้อนสูง ดังนั้น การวางทิศทางตัวบ้าน จึงสำคัญที่สุด
- ทิศเหนือ: เหมาะสำหรับติดกระจกบานใหญ่ เพราะได้รับแสงสว่างตลอดวันแต่ไม่ร้อน
- ทิศตะวันตก/ใต้: ควรเลี่ยงกระจกใหญ่ หรือหากจำเป็นควรใช้กระจกกันความร้อน (Low-E Glass) และมีม่านกรองแสงช่วย
3. วัสดุไม้ กับ ปลวกและความชื้น
ความเป็นธรรมชาติคือหัวใจของนอร์ดิก แต่งานไม้จริงภายนอกอาคารมักแพ้ฝนและปลวกในไทย ทางออกที่คุ้มค่าและดูแลรักษาง่ายกว่าคือการใช้ “ไม้เทียม” (Wood Substitute) หรือวัสดุทดแทนไม้ที่มีลวดลายสมจริง ทนทานต่อความชื้น ไม่บวมพอง และหมดกังวลเรื่องปลวกกินโครงสร้าง
4. ทรงหลังคาสูง โปร่ง ระบายอากาศได้ดี
ข้อดีที่สุดของบ้านสไตล์นอร์ดิกที่เข้ากับเมืองไทยคือ “High Ceiling” หรือเพดานทรงจั่วที่สูงโปร่ง ซึ่งตามหลักวิศวกรรม ความร้อนจะลอยตัวขึ้นที่สูง ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยด้านล่างเย็นสบาย หากมีการติดตั้งช่องระบายอากาศ (Ventilation) ที่บริเวณใต้หลังคาเพิ่มด้วย จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและประหยัดค่าแอร์ได้อย่างมาก
การตกแต่งในสไตล์นอร์ดิกไม่เพียงแต่ช่วยสร้างบรรยากาศที่สวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและสะดวกสบายอีกด้วย
ที่โครงการอรสิรินยังมีบ้านสไตล์นอร์ดิก ดีไซน์ครบ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย “Belive (สันทราย – แม่โจ้)” บ้านเดี่ยวทำเลดี ใกล้มหาวิทยาลัย เดินทางสะดวกพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ เริ่มต้นเพียง 3.5 ล้านบาท
เอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นรูปแบบหนึ่งของ Scandinavian ที่ได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ เน้นโทนสีที่มีความสว่างอบอุ่น
เพราะการเริ่มต้นของ “ความสุข” และการเริ่มต้นที่มีความสุข คือการเติบโตที่มั่นคง
ที่มาของข้อมูล : BNBHome
แท็ก : บ้าน เชียงใหม่ บ้านเดี่ยว ตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิก


