Author: Methas Suvanpahu

ORN ชี้แจงไม่ได้รับผลกระทบหนักเหตุการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ ประกันครอบคลุมไม่กระทบธุรกิจและผลการดำเนินงาน เผยทิศทางไตรมาส 3/2567 ฟอร์มดี กวาดยอดขายต่างชาติ New High หนุน Backlog เพิ่ม 1400 ล้านบาท   นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และนักลงทุนผ่านระบบเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Link) เพื่อทราบผลกระทบของปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ต่อโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้   1. ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เกิดจากอิทธิพลของมรสุมและพายุที่พาดผ่านมาก่อนหน้านี้ และภาวะลานินญ่า ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกในบริเวณตลอดลำน้ำปิงปริมาณมาก ดินบริเวณดังกล่าวไม่สามารถอุ้มซับน้ำฝนได้ ระดับน้ำบริเวณจุดวัดน้ำ P.1 (สะพานนวรัฐ) สูงถึง 5.30 เมตร ในขณะที่ปี

บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN นำโดย นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ จับมือ โรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ โดยมีนายแพทย์วุฒินันท์ มนัสสุนทรวุฒิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ร่วมสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืนมอบบริการทางการแพทย์ ตอบโจทย์ลูกค้าและพนักงานในเครือของบริษัทฯ ให้บริการรักษาพยาบาลและมอบส่วนลดให้แก่ลูกบ้านและพนักงานของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นประเภทผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน รวมถึงโปรแกรมตรวจสุขภาพทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่และคลินิกกายภาพบำบัดกรุงเทพ เชียงใหม่ สาขาสันทราย

ORN เปิดตัวทีมบริหาร โรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand ดันดร.ยุทธชัย ดำรงมณี นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน และคุณกันยาณรรค์ รัตนศาสตร์ชาญ ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน เข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการ อย่างเป็นทางการ พร้อมสานต่อแนวคิด ถ่ายทอดหลักสูตรการสอนฉบับอังกฤษอย่างแท้จริง โดย Mrs. Kate Simon จาก Mill Hill Education Group เข้าบริหารในไทยเต็มตัว ชูจุดแข็งสร้างเสริมทักษะและพัฒนาการจากประสบการณ์ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เตรียมเปิดการศึกษาแรกระดับ Nursery-Year 6 ในเดือน ก.ย. 2568 นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิรินโฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศแต่งตั้ง ดร.ยุทธชัย ดำรงมณี เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ และ คุณกันยาณรรค์ รัตนศาสตร์ชาญ

ORN ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ จ.เชียงใหม่ ประกาศความร่วมมือกับ SCG ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า สร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยสีเขียว ด้วยนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างติดฉลาก SCG Green Choice ใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทุกโครงการของ ORN ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นใจวัสดุผ่านการรับรองมาตรฐาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประหยัดพลังงาน มุ่งสู่เป้าหมายสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ สู่โลกที่ยั่งยืน นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่าบริษัทประกาศความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจกับ SCG ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยสีเขียว โดยการนำวัสดุก่อสร้างที่ได้รับฉลาก SCG Green Choice มาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยของ ORN ทุกโครงการ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่มีคุณภาพ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ORN ได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด บริษัทมีนโยบายในการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง โดยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้รับฉลาก SCG Green Choice เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อาทิ โครงหลังคาสำเร็จรูป ใช้วัสดุน้อยกว่าเหล็กรูปพรรณ  อย่างน้อย 45% มีอายุการใช้งาน  ที่ยาวนานกว่า 1.5 เท่า , หลังคาคอนกรีต ใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต อย่างน้อย 13% , คอนกรีตซีแพคคาร์บอนต่ำ ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จากกระบวนการผลิต เทียบเท่า การใช้คอนกรีต 1

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอันเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์ กลุ่มบริษัทอรสิรินจำกัด (บริษัทฯ) ได้เห็นความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลากรและลูกค้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ทราบถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้คือ

2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ใช้บังคับในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำสัญญาที่มีบริษัทเป็นคู่สัญญา และให้รวมไปถึงข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปฏิบัติเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นหลักสำคัญโดยวิธีการอันเปิดเผย และเป็นธรรม ซึ่งการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้คือ:-

2.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล , พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา , ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.1.2 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.1.3 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.1.4 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.1.5 เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.6 เป็นการดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีฐานะเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น ๆ

2.1.7 เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อยื่นขออนุมัติจากสถาบันการเงิน

2.1.8 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

2.2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายใต้มาตราการป้องกัน โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะใช้เพื่อการติดต่อและเสนอบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้เพื่อยื่นข้อเสนออื่น ๆ อันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทหรือบริษัทภายในเครือ และใช้เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าวต่าง ๆ ให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบและบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคคลไว้ภายใต้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลากรของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือถูกนำไปเปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล หรือนำไปหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

2.3 สิทธิและความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือยินยอมให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรักษาไว้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์มาจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาทตามกฎหมาย ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอเปิดเผยสามารถแจ้งความประสงค์มาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือมายังบริษัทพร้อมกับเอกสารแสดงสิทธิที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

2.4 ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ไว้ตามกำหนดระยะเวลาการใช้งานข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ให้บริษัททำการโอน ลบ หรือทำลายข้อมูลนั้น ๆ เสีย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้บริษัททราบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งมายังบริษัทโดยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินงานภายในบริษัท

3. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท

บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ

3.1 ด้านหลักเกณฑ์ทั่วไปของบริษัท

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ หรือจากการทำสัญญาต่าง ๆ เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงข้อมูลอื่นใดอันสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

                  3.1.2 หากบริษัทเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมทุกครั้งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 30 วัน

พร้อมกันนี้บริษัทจะวางมาตรการกำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น

                  3.1.3 บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายในฐานข้อมูลของบริษัท ทั้งนี้เพียงเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามสัญญาและการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้พ้นระยะเวลาการใช้งานไปแล้ว หรือได้พ้นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลประจำหน่วนงานไปแล้ว บริษัทจะทำการลบและทำลายข้อมูลดังกล่าวตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่บริษัทได้วางไว้

                  3.1.4 ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ภายในบริษัท บริษัทจะควบคุมการดำเนินการของหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ