บ้านจัดสรรเชียงใหม่ Tag

      เชียงใหม่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งในฐานะที่อยู่อาศัยและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบอากาศบริสุทธิ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทำให้โครงการ บ้านจัดสรรในเชียงใหม่มีตัวเลือกหลากหลายสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีและนักลงทุนที่ มองหาผลตอบแทนในอนาคต ทำไมเชียงใหม่จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มอบคุณภาพชีวิตสูง พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น: คุณภาพชีวิตที่ดี: บรรยากาศสงบ อากาศบริสุทธิ์ และความเป็นมิตรกับธรรมชาติ ทำให้ชีวิตในเชียงใหม่มีความผ่อนคลายและสุขภาพดี ระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย: การพัฒนาถนนวงแหวนรอบเมืองและทางหลวงที่เชื่อมต่อกับจังหวัดอื่น ๆ ช่วยให้การเดินทางภายในและรอบเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว ความต้องการที่สูง: ทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจในการซื้อบ้านจัดสรร ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่มีความเคลื่อนไหวและเติบโตอยู่เสมอ แนวโน้มของตลาดบ้านจัดสรรในเชียงใหม่ตลาดบ้านจัดสรรในเชียงใหม่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตชานเมืองที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น อำเภอหางดง สารภี และสันทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากที่ดินมีขนาดกว้างขวาง ราคายังไม่สูงเท่ากับเขตเมือง และยังสามารถพัฒนาโครงการที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่เงียบสงบเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคเหนือ จึงมีความต้องการที่อยู่อาศัยจากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นประชากรในพื้นที่ กลุ่มนักลงทุน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาพำนักระยะยาว  ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้การพัฒนาบ้านจัดสรรต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มและความต้องการของตลาด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้: บ้านแบบรีสอร์ต บ้านสไตล์รีสอร์ตเป็นหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเชียงใหม่ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบของจังหวัดมีภูมิประเทศที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ และเงียบสงบ ผู้พัฒนาโครงการจึงออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มาพร้อมสวนขนาดใหญ่ และบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ตส่วนตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ดอยสุเทพ ดอยสะเก็ด และแม่ริมซึ่งมีวิวภูเขาที่สวยงามโครงการประเภทนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการบ้านพัก ตากอากาศ รวมถึงนักลงทุนที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าระยะยาวหรือทำเป็นโฮมสเตย์ 2.

          การซื้อบ้านจัดสรรถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของชีวิตหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายปัจจัยเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ไลฟ์สไตล์ หรือเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการเลือกที่อยู่อาศัย บ้านจัดสรรที่เชียงใหม่ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนและตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทุกด้าน หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านจัดสรรในปีนี้การเตรียมความพร้อมและการศึกษาข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทำไมต้องเตรียมตัวก่อนตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร เชียงใหม่ในปี 2025          การซื้อบ้านจัดสรรเชียงใหม่ไม่ใช่แค่การเลือกที่อยู่อาศัย แต่เป็นการลงทุนที่ส่งผลระยะยาวต่อ ชีวิต และครอบครัวของคุณ การเข้าใจและเตรียมตัวก่อนตัดสินใจซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ้านไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นคงในชีวิตอีกด้วย หัวข้อนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมการวางแผน ศึกษา และพิจารณาปัจจัยต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะในยุคที่การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจส่งผลต่อการเลือกซื้อบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5 เรื่องสำคัญ ที่คุณควรรู้เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปอย่างมั่นใจและตอบโจทย์ที่สุด 1. ทำเลที่ตั้ง: หัวใจของการเลือกบ้านทำเลที่ตั้งถือเป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน การเลือกทำเลที่ดีไม่ได้หมายถึง แค่ความสะดวกสบายในปัจจุบัน แต่ยังหมายถึงศักยภาพของพื้นที่ในอนาคตด้วยทำเลที่ควรพิจารณา ใกล้แหล่งงานหรือสถานศึกษา: หากคุณทำงานในตัวเมืองหรือมีลูกที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน ควรเลือกทำเลที่เดินทางได้สะดวก เช่น ใกล้ถนนสายหลัก รถไฟฟ้า หรือทางด่วน สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ใกล้เคียง: เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอันเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์ กลุ่มบริษัทอรสิรินจำกัด (บริษัทฯ) ได้เห็นความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลากรและลูกค้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ทราบถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้คือ

2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ใช้บังคับในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำสัญญาที่มีบริษัทเป็นคู่สัญญา และให้รวมไปถึงข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปฏิบัติเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นหลักสำคัญโดยวิธีการอันเปิดเผย และเป็นธรรม ซึ่งการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้คือ:-

2.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล , พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา , ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.1.2 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.1.3 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.1.4 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.1.5 เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.6 เป็นการดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีฐานะเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น ๆ

2.1.7 เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อยื่นขออนุมัติจากสถาบันการเงิน

2.1.8 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

2.2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายใต้มาตราการป้องกัน โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะใช้เพื่อการติดต่อและเสนอบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้เพื่อยื่นข้อเสนออื่น ๆ อันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทหรือบริษัทภายในเครือ และใช้เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าวต่าง ๆ ให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบและบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคคลไว้ภายใต้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลากรของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือถูกนำไปเปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล หรือนำไปหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

2.3 สิทธิและความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือยินยอมให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรักษาไว้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์มาจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาทตามกฎหมาย ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอเปิดเผยสามารถแจ้งความประสงค์มาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือมายังบริษัทพร้อมกับเอกสารแสดงสิทธิที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

2.4 ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ไว้ตามกำหนดระยะเวลาการใช้งานข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ให้บริษัททำการโอน ลบ หรือทำลายข้อมูลนั้น ๆ เสีย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้บริษัททราบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งมายังบริษัทโดยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินงานภายในบริษัท

3. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท

บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ

3.1 ด้านหลักเกณฑ์ทั่วไปของบริษัท

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ หรือจากการทำสัญญาต่าง ๆ เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงข้อมูลอื่นใดอันสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

                  3.1.2 หากบริษัทเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมทุกครั้งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 30 วัน

พร้อมกันนี้บริษัทจะวางมาตรการกำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น

                  3.1.3 บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายในฐานข้อมูลของบริษัท ทั้งนี้เพียงเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามสัญญาและการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้พ้นระยะเวลาการใช้งานไปแล้ว หรือได้พ้นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลประจำหน่วนงานไปแล้ว บริษัทจะทำการลบและทำลายข้อมูลดังกล่าวตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่บริษัทได้วางไว้

                  3.1.4 ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ภายในบริษัท บริษัทจะควบคุมการดำเนินการของหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ