ARISE vibe เข้าใจบุคลิกที่หลากหลายของคนอยู่

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตจำเป็นต้องเข้าใจโครงสร้างประชากรและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง และภูเก็ตก็เป็นเมืองที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นศูนย์รวมของความต้องการที่แตกต่าง และไลฟ์สไตล์แบบเฉพาะตัว ดังนั้น กว่าจะพัฒนาเป็นโครงการ ARISE vibe สิ่งที่อรสิรินทำ คือการพยายามทำความเข้าใจความแตกต่างและหลากหลายเหล่านี้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถ ‘อยู่สบาย ได้เป็นตัวเอง’ อย่างแท้จริง โดยผู้อยู่อาศัยในภูเก็ต ประกอบไปด้วย

คนที่มีภูมิลำเนาภูเก็ต : คนที่เติบโตและใช้ชีวิตในภูเก็ตมาโดยตลอด มีเครือข่ายชุมชนที่แน่นแฟ้นและให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยในพื้นที่ดั้งเดิม พวกเขามักเลือกที่อยู่อาศัยตามปัจจัยของครอบครัวและความสะดวกในการเดินทาง มากกว่าการมองหาสิ่งใหม่

คนที่เพิ่งย้ายมาจากภูมิลำเนาอื่น : คนที่ย้ายมาทำงานหรือสร้างชีวิตใหม่ในภูเก็ต ส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ พวกเขาเปิดรับไลฟ์สไตล์เมืองและมองหาพื้นที่ที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตที่คล่องตัว

คนที่ย้ายมาจากภูมิเนาอื่น และใช้ชีวิตที่ภูเก็ตมาเป็นระยะเวลานาน : กลุ่มที่มีแนวคิดผสมผสาน พวกเขาอาจเป็นคนรุ่นใหม่ที่เกิดในภูเก็ตแต่มีมุมมองสมัยใหม่ หรือเป็นคนที่ย้ายมาแล้วปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและสมดุลระหว่างไลฟ์สไตล์เมืองกับความเป็นธรรมชาติของภูเก็ต

จากโครงสร้างประชากรเหล่านี้ ทีมพัฒนา ARISE vibe Phuket-Thalang จึงได้ออกแบบโครงการให้สอดคล้องกับ ความต้องการในการอยู่อาศัย ของแต่ละกลุ่ม โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

Dynamic Dreamer – นักฝันที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่น

ใครคือ Dynamic Dreamer?

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและความทะเยอทะยาน มักเป็นฟรีแลนซ์ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือมืออาชีพที่ต้องการสร้างอนาคตของตนเอง พวกเขาให้ความสำคัญกับความอิสระ ความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน และพื้นที่ที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

ARISE vibe ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ด้วยการพัฒนาพื้นที่ที่ออกแบบให้มี Co-working Space, มุมทำงานที่เงียบสงบ และสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ Dynamic Dreamers สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแยกการทำงานและการพักผ่อนออกจากกัน

Introvert-Explorer – นักสำรวจโลกที่ต้องการความสงบในพื้นที่ของตนเอง

ใครคือ Introvert-Explorer?

บุคคลที่หลงใหลในการใช้ชีวิตเมือง แต่ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนตัวและการผ่อนคลาย พวกเขาชอบสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ แต่ต้องการบ้านที่เงียบสงบเพื่อเติมเต็มพลังงาน เหมาะสำหรับผู้บริหารระดับกลางหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสถานที่ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความสงบ

ARISE vibe ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ด้วยการพัฒนาให้โครงการออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่สงบ เช่น พื้นที่สีเขียว ฟิตเนส และมุมพักผ่อนที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึง Layout ห้องพักที่เน้นการออกแบบให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ต้องการความสงบ

Future Investor – นักลงทุนแห่งอนาคตที่มองหาความมั่นคง

ใครคือ Future Investor?

นักลงทุนที่มองหาความมั่นคงในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือผู้ที่ต้องการสร้าง Passive Income จากการปล่อยเช่า พวกเขาให้ความสำคัญกับศักยภาพของทำเล ความปลอดภัย และโอกาสในการเติบโตของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์

ด้วยทำเลของโครงการที่อยู่ในพื้นที่ศักยภาพของถลาง ใกล้กับแหล่งเศรษฐกิจและสถานที่สำคัญของภูเก็ต ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ทั้งในแง่ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์และโอกาสปล่อยเช่า

ARISE vibe: พื้นที่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

จากการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย ARISE vibe ได้ออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึง:

  • ฟังก์ชันภายในห้อง ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับทำงาน พื้นที่พักผ่อน หรือพื้นที่สำหรับต้อนรับแขก
  • สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น Co-working Space, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลาย
  • ระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อความอุ่นใจของผู้พักอาศัย รวมถึงพื้นที่สำหรับรับรองญาติหรือเพื่อนที่มาเยี่ยมเยือน
  • ทำเลที่สะดวกสบาย ใกล้ร้านค้า คาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของภูเก็ต

ARISE vibe Phuket-Thalang: พื้นที่ที่เป็นของคุณ

ARISE vibe ไม่ใช่เพียงคอนโดมิเนียมธรรมดา แต่คือพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ อยู่สบาย และได้เป็นตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็น Dynamic Dreamer ที่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ Introvert-Explorer ที่มองหาความเงียบสงบ หรือ Future Investor ที่มองหาความคุ้มค่าในระยะยาว โครงการนี้พร้อมตอบโจทย์คุณ

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอันเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์ กลุ่มบริษัทอรสิรินจำกัด (บริษัทฯ) ได้เห็นความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลากรและลูกค้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ทราบถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้คือ

2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ใช้บังคับในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำสัญญาที่มีบริษัทเป็นคู่สัญญา และให้รวมไปถึงข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปฏิบัติเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นหลักสำคัญโดยวิธีการอันเปิดเผย และเป็นธรรม ซึ่งการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้คือ:-

2.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล , พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา , ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.1.2 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.1.3 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.1.4 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.1.5 เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.6 เป็นการดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีฐานะเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น ๆ

2.1.7 เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อยื่นขออนุมัติจากสถาบันการเงิน

2.1.8 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

2.2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายใต้มาตราการป้องกัน โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะใช้เพื่อการติดต่อและเสนอบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้เพื่อยื่นข้อเสนออื่น ๆ อันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทหรือบริษัทภายในเครือ และใช้เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าวต่าง ๆ ให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบและบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคคลไว้ภายใต้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลากรของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือถูกนำไปเปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล หรือนำไปหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

2.3 สิทธิและความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือยินยอมให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรักษาไว้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์มาจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาทตามกฎหมาย ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอเปิดเผยสามารถแจ้งความประสงค์มาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือมายังบริษัทพร้อมกับเอกสารแสดงสิทธิที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

2.4 ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ไว้ตามกำหนดระยะเวลาการใช้งานข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ให้บริษัททำการโอน ลบ หรือทำลายข้อมูลนั้น ๆ เสีย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้บริษัททราบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งมายังบริษัทโดยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินงานภายในบริษัท

3. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท

บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ

3.1 ด้านหลักเกณฑ์ทั่วไปของบริษัท

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ หรือจากการทำสัญญาต่าง ๆ เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงข้อมูลอื่นใดอันสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

                  3.1.2 หากบริษัทเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมทุกครั้งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 30 วัน

พร้อมกันนี้บริษัทจะวางมาตรการกำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น

                  3.1.3 บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายในฐานข้อมูลของบริษัท ทั้งนี้เพียงเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามสัญญาและการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้พ้นระยะเวลาการใช้งานไปแล้ว หรือได้พ้นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลประจำหน่วนงานไปแล้ว บริษัทจะทำการลบและทำลายข้อมูลดังกล่าวตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่บริษัทได้วางไว้

                  3.1.4 ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ภายในบริษัท บริษัทจะควบคุมการดำเนินการของหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ