1.ก้อนดับกลิ่นทำมือ
ถ้าไม่อยากใช้สเปรย์ปรับอากาศทั่วไปหรือน้ำหอมปรับอากาศที่ระคายเคือง ให้นำตะไคร้สด ชิงสด และข่าสด หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือใช้ครกตำสมุนไพรเหล่านี้แบบไม่ต้องละเอียดมาก และห่อด้วยผ้าขาวบางในลักษณะเป็นก้อนกลมแบบลูกประคบ หลังจากนั้น เราสามารถนำก้อนดับกลิ่นทำมือไปแขวนในห้องที่มีกลิ่นอับ เพื่อให้ช่วยดูดซับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
2. ของคู่ครัวสารพัดประโยชน์
• น้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้
ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า
• เบคกิ้งโซดา แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้บรรยากาศบ้านไม่สุนทรีย์ โดยโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน ก่อนจะนำรองเท้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและเทผงเบคกิ้งโซดาทิ้ง โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้หมึกพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
3. สำรวจหาต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระยะยาว
เราควรพิจารณาหาต้นเหตุของกลิ่น และกำจัดให้ถูกต้อง เช่น กลิ่นในห้องครัวที่ทำอาหารอันเนื่องมาจากถังขยะ แม้จะปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็ยังไม่รอดพ้นจากกลิ่นเหม็น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำมะนาวฝานทิ้งลงถังขยะ หรือใช้ใช้หนังสือพิมพ์รองก้นถังขยะ และปิดฝาถังให้มิดเพื่อป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย
• ส่วนกลิ่นในห้องครัวที่มาจากอาหารไหม้ เราสามารถใช้มะนาวฝานต้มน้ำในกระทะ เพื่อให้กลิ่นหอมของมะนาวช่วยดับกลิ่นไหม้ได้ ทั้งยังสามารถช่วยดับกลิ่นอาหารที่ติดไมโครเวฟได้เช่นกัน
การนำมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นบางๆในลงในน้ำเดือดและตั้งทิ้งไว้แบบปิดฝาให้ไอน้ำระเหยออกมา ทำให้กลิ่นในห้องครัวดีขึ้น
• สำหรับกลิ่นที่เกิดขึ้นในตู้เย็น เราควรใช้ถ่านหุงข้าววางไว้ชั้นบนข้างในตู้เย็น โดยดึงปลั๊กตู้เย็นออกก่อนและเปิดประตูแง้มไว้ให้อากาศถ่ายเท
• รวมถึงใช้ผงกาแฟเทใส่ถ้วยเป็นตัวช่วย ด้วยการตั้งทิ้งไว้ให้ดูดกลิ่นอับในตู้เย็นจนกว่ากลิ่นกาแฟจะหายไป
4. เก็บกวาดห้องให้หมดจด
สาเหตุที่ทำให้ห้องเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น จานชามช้อนส้อมที่ยังไม่ได้ล้าง ถุงขนม อาหารหมดอายุ ซึ่งเราควรจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย โดยเฉพาะผ้าเปียกที่ไม่ควรไว้ในห้องเพราะเป็นตัวการสำคัญของกลิ่นอับชื้น รวมถึงการดูแลรักษาพื้นพรมไม่ให้โดนน้ำหรือขนม เพราะเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและทำให้เกิดกลิ่นที่ยากต่อการกำจัด รวมถึงการทำความสะอาดที่นอนไม่ว่าจะเป็น หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม เตียงนอน ผ้าคลุมเตียง เป็นต้น เพื่อขจัดหนึ่งในต้นเหตุกลิ่นอับ เพื่อสุขอนามัย และป้องกันไรฝุ่นได้
• โดยควรนำชุดเครื่องนอนมาตากแดดฆ่าเชื้อโรคและหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ ทำให้ห้องสดชื่นได้ เรายังสามารถใช้เดทตอลน้ำยาขจัดเชื้อโรคถูพื้นห้องให้สะอาด
• เพื่อเพิ่มความหอมสดชื่นและช่วยกำจัดเชื้อโรคในห้องได้เป็นอย่างดี หรือจะเลือกใช้สเปรย์ปรับอากาศเพิ่มความสดชื่นภายในห้องได้ตามความต้องการ
5.ใช้ธรรมชาติเข้าช่วย
ด้วยการให้สายลมแสงแดดที่อยู่ในธรรมชาติเป็นผู้ช่วยขจัดกลิ่นเหม็นอับโดยใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อนให้เป็นประโยชน์แค่เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทในห้องเพื่อให้อากาศหมุนเวียนและให้แสงแดดช่วยขจัดกลิ่นอับ
*ที ทรี ออย นั้นเป็นสารธรรมชาติที่มีฤทธิในการกำจัดแบคทีเรีย ได้ดีพอ ๆ กับยาฆ่าเชื้อราและยาฆ่าเชื้อ ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะใช้มันเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมีค่ะ