[vc_row row_content_width=”grid” css=”.vc_custom_1531308388498{padding-top: 70px !important;padding-bottom: 70px !important;}”][vc_column]

บทความที่น่าสนใจ

[/vc_column][/vc_row][vc_row row_content_width=”grid” css=”.vc_custom_1531319041798{padding-bottom: 100px !important;}”][vc_column]
  • ใส่แล้วเฮง! กับสีเสื้อมงคลต้อนรับปี 2567 🎉 สีไหนใส่แล้วรุ่ง 👍 สีไหนใส่แล้วปัง 💥 มาดูกันเลย! . . เริ่มต้นปีด้วยความเป็นสิริมงคล ✨ เอาฤกษ์เอาชัย ด้วยการใส่เสื้อสีให้ตรงกับวัน 👕 รับทรัพย์ตลอดปี งานพุ่ง ✨ รุ่งแบบฉุดไม่อยู่ สีไหนใส่แล้วเสริมมงคล สีไหนควรเลี่ยง เช็คได้ที่ตารางนี้เลย สุขกายสุขใจตลอดปี 💕 มีความสุขในทุกๆวัน เงินทองและโชคลาภ 💰 ไหลมาเทมาต้อนรับปีมังกรทอง 🐉

  • พอถึงสิ้นปีทีไรปัญหาเรื่องฝุ่นก็วนกลับมาให้เราได้กังวลใจอีกครั้งเป็นประจำแบบนี้ทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง การป้องกันและเตรียมรับมือกับฝุ่น จึงเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่พึงปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ วันนี้ อรสิริน จะมาบอกถึงผลกระทบต่อร่างกายที่มาพร้อมกับอันตรายของฝุ่น หากเราไม่ป้องกันให้ถูกวิธี ฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กมากพอที่จะ หายใจเช้าไปสู่ปอด เข้าสู่กระแสเลือด ตาแดง เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ ทำให้เกิดภาวะอีมพาต หรือเสียชีวิต ไอเจ็บคอ หายใจแล้วมีเสียงฟิดฟาด เลือดกำเดาไหล ซึ่งหากเลือดกำเดาลงคคอ ก็จะทำให้เสมหะมีเลือดเจือปน ทะลุผ่านปอด เข้าสู่กระแสเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ทำให้หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดปกติ ปอดอักเสบ โรคถุงลมโป่งพอง ผิวหนัง เกิดผืนคัน เข้าสู่ในรกทำอันตรายเด็กในท้อง ทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด ทุพโภชนาการ    

  • การเลือกใช้สีห้องถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะ ทุกสีมีความหมาย สีทุกห้องที่เราเลือกให้กับบ้านของคุณ นอกจากสวยงามเข้ากับตัวบ้านและโครงการแล้ว แต่ละสียังเป็นตัวช่วยที่สามารถสร้างอารมณ์ ความรู้สึก ส่งเสริมพลังบวกให้ได้ วันนี้อรสิริน จะพาทุกคนมาดู โทนสีห้อง ที่ใช้นำมาตกแต่งผนังห้องให้ห้องสวย แถมยังช่วยเสริมโชคให้กับเราอีกด้วย

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text]"รับมือง่ายๆ

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text]"โทนอบอุ่น ในทุกพื้นที่ความสุข"

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text]#จัดบ้านเรา ให้ผ่อนคลายและน่าอยู่!

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] "5 ทริค"

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] 💬 เนื่องจาก

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="14349" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][/vc_column][/vc_row]

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13698" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : ก้อนดับกลิ่นทำมือ ถ้าไม่อยากใช้สเปรย์ปรับอากาศทั่วไปหรือน้ำหอมปรับอากาศที่ระคายเคือง ให้นำตะไคร้สด ชิงสด และข่าสด หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือใช้ครกตำสมุนไพรเหล่านี้แบบไม่ต้องละเอียดมาก และห่อด้วยผ้าขาวบางในลักษณะเป็นก้อนกลมแบบลูกประคบ หลังจากนั้น เราสามารถนำก้อนดับกลิ่นทำมือไปแขวนในห้องที่มีกลิ่นอับ เพื่อให้ช่วยดูดซับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13701" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : ของคู่ครัวสารพัดประโยชน์ น้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้ - ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า - เบคกิ้งโซดา แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้บรรยากาศบ้านไม่สุนทรีย์ โดยโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13713" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : น้ำยาขัดอ่างล้างหน้าและกระเบื้อง - ผสมเบกกิ้งโซดา 1 5/8 ถ้วย สบู่เหลว ½ ถ้วย และ น้ำเปล่า ½ ถ้วย ให้เข้ากันแล้วเติมน้ำส้มสายชูหมัก 2 ช้อนชาลงไป

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13519" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : น้ำส้มสายชู หากเราเผลอทำอาหารหรือน้ำหกใส่พรม ควรรีบทำความสะอาดเพื่อไม่ให้คราบนั้นฝังแน่นลงในพรม โดยให้ใช้กระดาษเช็ดคราบออกเป็นอันดับแรก

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13463" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : แหล่งน้ำขัง เริ่มจากการมองหาแหล่งน้ำขังทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้าน เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก และกลิ่นเหม็นของน้ำเน่าเสีย รวมถึงคราบตะไคร่ ที่เกิดสะสมกลายเป็นเชื้อราหรือแบคทีเรียได้. [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13481" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : รอบบ้าน เราต้องทำการสำรวจตรวจตราเพิ่มเติม ถึงสวนนอกบ้านที่บางครั้งเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่ได้รับการดูแล อาจทำให้สัตว์มีพิษเข้ามาอยู่อาศัยบริเวณนั้นได้ [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13478" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : ทางเข้าบ้าน 
เรามักจะมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด อาจจะมีรอยเท้าหรือฝุ่นที่สะสมบนพรมเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน รวมถึงลูกบิดประตู โดยร่องรอยความสกปรกที่พบอาจจะกลายเป็นความคุ้นชินที่ทำให้เราปล่อยปละละเลยการทำความสะอาด ทั้งที่เป็นจุดที่เราต้องสัมผัสมากที่สุดและบ่อยที่สุดก็ตาม [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13377" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : สร้างความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ ต้องเป็นสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การมองเห็น การได้ยิน เช่น ระหว่างทางเดินในจุดต่างๆ มีราวจับ กระเบื้อง หรือวัสดุที่ใช้ปูพื้นต้องไม่ลื่น มีระบบขอความช่วยเหลือหลายๆ จุด เช่นในห้องน้ำ และในห้องนอน. [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13380" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] : ใช้งานสะดวก ต้องสามารถเข้าถึงง่าย ในส่วนต่างๆ ของบ้านต้องทำให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ ของใช้ต่างๆได้อย่างสะดวก เช่น ความสูงของตู้เก็บของ และสวิทซ์ไฟที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็น รวมถึงใช้โทนสีสว่าง ติดไฟให้มองเห็นทั่วห้องได้ชัดเจน ในบริเวณที่มีการเปลี่ยนระดับต้องมีทางลาดสำหรับรถเข็น เป็นต้น [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px

  • [vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="13075" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text] "สูงสุด 2 แสนบาท"

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text] "สร้างบรรยากาศดี กับพื้นที่สวนสวยเล็กๆ" ไม่ว่าจะหน้าบ้าน หลังบ้าน หรือรอบๆบ้าน แม้กระทั่งทาวน์เฮาส์เอง ก็สามารถสร้างสรรค์สวนสวยได้

  • ทั้งแมวและสุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงที่เรารักเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ไม่ว่าไปไหนก็ต้องพาไปด้วยตลอด แม้เวลานอน ก็ยังนอนด้วยกัน เพื่อความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย แต่…ก็ยังไม่วายเรื่องปัญหาสุขอนามัย ที่ต้องควรเฝ้าระวังอยู่ตลอด. ไม่ให้เกิดขึ้นกับคุณและสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก     1. ขนสัตว์เลี้ยงอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนังได้ โดยเฉพาะแมวที่ขนร่วงง่ายกว่าสุนัข ขนของแมวอาจติดอยู่บนปลอกหมอนและผ้าห่ม หากนอนไปนานๆ อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นกวาดห้องนอน ถูพื้น และดูดฝุ่นให้สะอาดอยู่เสมอ 2. อาจมีกลิ่นสะสมอยู่ในห้องนอน เรื่องการขับถ่ายของสัตว์เลี้ยง ก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถส่งกลิ่นได้ ยิ่งถ้าห้องนอนเป็นห้องแอร์และมีกลิ่นอบอวลอยู่ทั่วห้อง คุณคงนอนไม่หลับเป็นแน่ ดังนั้นวิธีการป้องกัน คือให้ซื้อสเปรย์หอมดับกลิ่น(สูตรที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง)มาฉีดพ่นเป็นบางบริเวณบนห้อง หรือในกระบะทรายแมว ส่วนของสุนัขให้หมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมแผ่นและถูพื้นบริเวณที่มีปัสสาวะบ่อยๆ และใช้สเปรย์ดับกลิ่นฉีดทับเข้าไปอีกที 3. สัตว์เลี้ยงอาจทำลายข้าวของของคุณ สำหรับสัตว์เลี้ยงบางตัว โดยเฉพาะลูกแมวและลูกสุนัข อาจมีพฤติกรรมซุกซน ชอบกัด ชอบตะปบ จึงควรหาของเล่นเตรียมไว้ให้สัตว์เลี้ยงเล่น เช่น ลูกบอล เชือก ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปเล่นกับข้าวของเครื่องใช้ของคุณ 4. การสูดหายใจเอาขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปมากๆไม่ใช่เรื่องดี อาจจะไม่ถึงกับสูดเข้าไปจนถึงปอดหรือหลอดลม แต่การที่คุณต้องนอนกับขนสัตว์เลี้ยงทุกวัน อย่างเบื้องต้นสุดก็อาจจะระคายเคืองโพรงจมูก และจามบ่อยๆ วิธีป้องกันจึงคล้ายกับข้อแรกคือ อย่าละเลยเรื่องการทำความสะอาดห้องนอนและมุมต่างๆของคุณ 5. สัตว์เลี้ยงอาจทำที่นอนคุณสกปรก สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจเท้าเปื้อนมาแล้วมาเหยียบบนที่นอน ดังนั้นคุณต้องหมั่นสังเกต แล้วซักทำความสะอาดที่นอนทันทีที่เห็นคราบเปื้อน นอกจากนี้ยังควรฝึกวินัยสัตว์เลี้ยง ให้ขับถ่ายในที่ที่จัดไว้ให้ และพยายามอย่าให้สัตว์เลี้ยงไปคลุกคลีกับสิ่งสกปรกเด็ดขาด ขอบคุณที่มา

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยขยะอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขยะภายในบ้าน ขยะตามท้องถนนที่เกิดจากความมักง่ายของคนหลายๆ คน ซึ่งถ้าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ รับรองว่าเพียงไม่นานประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยขยะจนเราอยู่กันไม่ได้แน่ๆ แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ?? เอาเป็นว่ามาเริ่มที่ตัวเรา ที่บ้านของเรากันก่อนดีกว่าเนอะ ทีนี้ก็มาดูแล้วนำไปใช้กันเลยว่า 5 วิธีลดขยะภายในบ้านมีอะไรบ้าง[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] 1.แยกประเภทขยะ [/vc_column_text][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="9960" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text]เพราะขยะจากการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของเรามีเยอะแยะมากมายเหลือเกิน ซึ่งบางประเภทก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ บางประเภทก็ไม่ได้ ฉะนั้นเราจึงควรแยกประเภทขยะให้เรียบร้อยก่อนทิ้งทุกครั้ง[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] 2.รู้จักรักษาและซ่อมแซมของเก่า [/vc_column_text][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="9965" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text]ของใช้ทุกอย่างในบ้านถ้าเรารู้จักดูแลรักษาให้ดี และใช้อย่างทะนุถนอมก็สามารถยืดอายุการใช้ของมันออกไปได้ และจะดียิ่งขึ้นถ้าสามารถนำสิ่งที่เสียแล้วมาซ่อมแซมให้ใช้ได้ใหม่อีกครั้ง[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560422859561{padding-top: 22px !important;padding-bottom: 22px !important;}"][vc_column][vc_column_text] 3.ลด ละ เลิก ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง [/vc_column_text][vc_empty_space height="20"][vc_single_image image="9969" img_size="large" alignment="center"][vc_empty_space height="20"][vc_column_text]ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งบางอย่างอาจจะให้ความรู้สึกปลอดภัย

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]“การกู้ซื้อคอนโดสไตล์มนุษย์เงินเดือน” มนุษย์เงินเดือนหลายๆคน พอทำงานเก็บเงินได้ซักก้อน คงมีความฝันที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองใช่มั้ยล่ะคะ นอกเหนือจากบ้าน และ ทาวน์โฮมแล้วที่อยู่อาศัยที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ คอนโดมิเนียม เพราะคอนโดมักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก หรือใกล้ที่ทำงาน เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้คอนโดก็ผุดขึ้นยังกับดอกเห็ด ทำให้มีตัวเลือกให้เราเปรียบเทียบมากมาย พอเราไปดูโครงการหลายๆโครงการเข้าก็จะเกิดความรู้สึกว่า “อันนู้นก็ดูดี อันนี้ก็อยากได้” จนบางทีก็เกือบจะหน้ามืดตัดสินใจวางเงินจองคอนโดที่ราคาสูงเกินกำลังผ่อนชำระของเรา แล้วอย่างงี้จะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเราควรจะซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ ถึงจะพอกู้ได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปและคอนโดที่เราซื้อได้นั้นมันอยู่ทำเลไหนกันบ้างนะ บทความซื้อคอนโดสไตล์มนุษย์เงินเดือน ตอนนี้จะมาไขข้อข้องใจในการกู้เงินเพื่อซื้อคอนโดให้รู้กันค่ะ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_empty_space][vc_single_image image="7041" img_size="full" alignment="center"][vc_empty_space][vc_column_text]การซื้อคอนโดนั้นถ้าไม่ซื้อเงินสด ก็จำเป็นที่จะต้องกู้ยืมเงินจากธนาคารแล้วค่อยผ่อนคืนเป็นงวดๆ โดยธนาคารส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้เรากู้ได้ 100% นะคะ แต่มักจะอนุมัติสินเชื่อให้ไม่เกิน 90% ของราคาขายหรือราคาประเมินโดยจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า ยกเว้นคอนโดบางโครงการที่เป็นของบริษัทใหญ่ที่มีผลประกอบการดี หรือ เครดิตดี ธนาคารอาจพิจารณาเงินกู้ ให้ 100% สำหรับการกู้เงินเพิ่มเติมนำมาใช้ตกแต่งห้อง บางธนาคารก็สามารถให้เรากู้ได้ซึ่งต้องดูเงื่อนไขของแต่ละธนาคารกันอีกทีว่าจะได้เป็นสินเชื่อแบบไหนและกู้ได้กี่% (ส่วนใหญ่มักจะไม่เกิน10%) ซึ่งแน่นอนว่าดอกเบี้ยก็จะสูงกว่าเงินกู้แบบปกติและต้องผ่อนในระยะเวลาที่สั้นกว่า สำหรับส่วนต่างที่เรากู้ไม่ได้เมื่อถึงเวลาโอนเราจะต้องสำรองเงินส่วนนี้ไว้ด้วยนะคะ โดยวงเงินกู้ซื้อที่อาศัยจะขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของเรานั่นเอง สิ่งนี้แหละค่ะที่ดับฝันของเรา วงเงินกู้ที่ธนาคารให้จะอยู่ที่ประมาณ 50เท่าของเงินเดือนโดยอาจจะมากกว่า 50 เท่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับความมั่นคงในการที่การงานและประวัติการชำระหนี้สินของผู้กู้[/vc_column_text][vc_empty_space][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1560142189199{padding-bottom:

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]นอกจากจะต้องเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านแห่งความภาคภูมิใจแล้ว ขั้นต่อไป เราก็ต้องรักษาให้บ้านดูดีดูใหม่อยู่เสมอ อย่างน้อยๆ เวลาแขกไปใครมาจะได้ไม่เขินอายในความโทรมของบ้าน ยิ่งหน้าฝนอย่างนี้แล้ว เพียงแค่ปัดกวาดเช็ดถูภายในบ้านก็คงไม่เพียงพอ เพราะถ้าบ้านต้องเจอทั้งฝนตก แดดออก พายุเข้าแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้เรามีวิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝนมาฝากกัน[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row content_placement="middle" css=".vc_custom_1556561799904{padding-top: 32px !important;padding-bottom: 32px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_column_text] 1.หมั่นสังเกตรอยร้าว เรื่องง่ายๆ ที่หนุ่มสาวยุคใหม่ชอบมองข้าม อันที่จริงแล้วถ้าเข้าช่วงหน้าฝนแบบนี้ การตรวจดูรอยรั่วซึม แตกร้าวภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝ้า ผนัง และรอยต่อของวัสดุต่างๆ เมื่อพบปัญหาเหล่านี้ ควรรีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้ ปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9483" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][/vc_row][vc_row content_placement="middle" css=".vc_custom_1556561807562{padding-top: 32px !important;padding-bottom: 32px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9488" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_column_text] 2.ขยันทำความสะอาดพื้น ช่วงหน้าฝนแบบนี้ คนรักบ้านทั้งหลายต้องตรวจเช็กประตูและหน้าต่างภายในบ้านทุกบาน ว่าปิดสนิทแล้วหรือยัง? เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำฝนจะไม่สาดเข้ามา และเมื่อฝนหยุดตกแล้ว เราควรเช็ดน้ำที่เจิ่งนองให้แห้ง

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]คุณกำลังปวดหัวกับเหล่าสัตว์ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายที่พากันเข้ามาทักทายคุณถึงบ้านอยู่หรือเปล่า ?? สัตว์ไม่พึงประสงค์เหล่านี้สามารถแวะมาทักทายคุณได้ทุกเมื่อ หากเราไม่พร้อมที่จะหาวิธีป้องกันจากสัตว์พวกนี้  ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูครับ รับรองได้ว่าคุณจะไม่เจอปัญหากวนใจแบบเดิมๆ อีกต่อไป[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row content_placement="middle" css=".vc_custom_1556561226147{padding-top: 32px !important;padding-bottom: 32px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_column_text] 1. งู งู ถ้าเจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวนี้ชอบเข้าบ้านคุณบ่อยๆ แนะนำว่าให้เอาน้ำมันที่มีกลิ่นแรงหรือผงกำมะถันไปโรยบริเวณรอบบ้าน พร้อมทั้งสังเกตบ้านว่ามีช่องไหน รูไหนที่งูสามารถเข้ามาได้หรือเปล่าก็ให้โรยบริเวณนั้นเป็นพิเศษ ที่สำคัญต้องหมั่นทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ อย่าให้บ้านรกด้วยนะครับ[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9455" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][/vc_row][vc_row content_placement="middle" css=".vc_custom_1556561230881{padding-top: 32px !important;padding-bottom: 32px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9460" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_column_text] 2. หนู หนู หนึ่งในสัตว์ตัวร้ายยอดนิยมที่ทุกบ้านต้องเจอ ยิ่งเป็นบ้านที่มีการทำอาหารบ่อย ยิ่งต้องระวัง เพราะหนูมักจะมาตามกลิ่นอาหาร กลิ่นขยะ ส่วนวิธีแก้ก็ไม่ยาก เพียงมั่นทำความสะอาดครัวอยู่เสมอและอย่าลืมทิ้งขยะ แต่ถ้ามีเจ้าตัวจี๊ดเข้ามาแล้วล่ะก็ขอแนะนำวิธีง่ายๆ 2 วิธี นำลูกเหม็นมาวางบริเวณที่คิดว่าหนูชอบมา 2.เลี้ยงแมวครับ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row content_placement="middle"

  • วินาทีนี้หลายบ้านต้องกุมขมับ ปวดหัว กับการทำความสะอาดกระจกห้องน้ำอย่างไร ให้กับมาใสสะอาด ไร้คราบสบู่ คราบน้ำ ที่เกาะแน่น จนยากต่อการขัดออก บางรายท้อถอยถึงกับปล่อยให้มันเลอะอย่างนั้นต่อไป เหตุนี้เองจึงมีพ่อบ้าน แม่บ้าน ผู้เคยร่วมชะตากรรมเดียวกัน มาคิดค้นสูตรกรรมวิธีขจัดคราบสกปรกบนกระจกห้องน้ำ ให้สิ้นซากได้อย่างงายดายและรวดเร็ว โดยมีทั้งหมด 5 สูตร ใครสะดวกวิธีไหน สามารถไปเลือกสรร ลองทำกันได้เลย     1. กระจกห้องน้ำใสสะอาด ด้วยน้ำส้มสายชู+น้ำยาล้างจาน บ้านไหนที่กำลังเผชิญกับปัญหาแสนปวดหัว ต้องทำความสะอาดขจัดคราบน้ำอันก่อตัวเกาะกระจกในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นตู้อาบน้ำ หรือกระจกส่องบริเวณอ่างล้างหน้า ที่ดูเหมือนจะต้องใช้แรงขัดค่อนข้างมาก ถึงเสกสรรค์ให้เงาวับได้ดั่งใจ เหตุนี้เองจึงทำให้มีผู้คิดค้นสูตรเด็ดในการขจัดคราบ ทั้งแสนง่ายและเห็นผลทันตาเห็น เพียงมองหาอุปกรณ์ในครัวอย่างน้ำส้มสายชู และน้ำยาล้างจานมาผสมกัน โดยนำฟองน้ำที่ใช้ล้างจานมาชุบส่วนผสมทั้งสอง จากนั้นมาขัดถูกระจกโดยแทบไม่ต้องออกแรง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้กระจกในห้องน้ำ หรือตู้อาบน้ำ ก็กลับมาใส พร้อมใช้งานดังเดิม 2. เหลือเชื่อ ขี้เถ้าแกลบ+โซดาไฟ กระจกห้องน้ำปิ๊งวิบวับ มาถึงอีกหนึ่งสูตรของการขจัดคราบกระจกห้องน้ำให้กลับมาปิ้งวิบวับดังเดิม แถมอันนี้ยังเพิ่มเรื่องความเงาให้กับกระจกห้องน้ำอีกด้วย แต่อาจจะหาขี้เถ้าแกลบยากสักหน่อย แนะนำให้หาซื้อที่ร้านขายต้นไม้จะสะดวกสุด จากนั้นตักขี้เถ้าแกลบออกมาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาผสมโซดาไฟ ขั้นตอนต่อไปให้หาถุงมือยางมาสวนใส่ก่อนจะนำผ้าสะอาดมาจุ่มเพื่อเช็ดทำความสะอาดกระจกต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้โซดาไฟ

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]แปลงโฉมบ้านใหม่ให้มีสีสันและชีวิตชีวาตามสไตล์ของเจ้าบ้านและสมาชิกในครอบครัวได้ง่ายๆ ด้วยการติดวอลเปเปอร์ใหม่ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ก่อนจะเริ่มต้นลงมือเพิ่มลูกเล่นให้บ้านสวยด้วยวอลเปเปอร์ ลองศึกษาและทำความเข้าใจเทคนิคการเลือกวอลเปเปอร์ไว้เล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจกับการตัดสินใจสร้างสีสันให้ผนังบ้านของเรามากยิ่งขึ้น[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1556096763280{padding-top: 25px !important;padding-bottom: 25px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9346" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_column_text] คำนวณพื้นที่ หากคิดจะติดวอลเปเปอร์ควรเริ่มต้นจากการวัดพื้นที่เพื่อคำนวณปริมาณการใช้วอลเปเปอร์ให้เพียงพอ โดยวัดความกว้างและความสูงของผนังในแต่ละด้าน ก่อนจะนำมาคูณกันใช้หน่วยเป็นตารางเมตร ซึ่งวอลเปเปอร์สีพื้น ลายเล็ก และลายใหญ่ มีผลต่อระยะการต่อลายหรือเศษของวอลเปเปอร์ที่สามารถนำไปใช้กับพื้นที่หน้าต่าง ประตู หรือส่วนตกแต่งอื่นๆ เช่น วอลเปเปอร์สีพื้นสามารถใช้ได้คุ้มค่ามากที่สุด เพราะไม่บังคับการต่อลาย จึงเหลือเศษน้อย และติดได้พื้นที่มากกว่าแบบมีลาย ซึ่งวอลเปเปอร์ลายเล็กจะเสียเศษน้อยกว่าและสามารถติดได้พื้นที่มากกว่าลายใหญ่ เนื่องจากการใช้วอลเปเปอร์ลายใหญ่มีระยะการต่อลายมากจึงเสียเศษมากกว่า[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width="1/2"][vc_column_text] เลือกขนาดและวัสดุ ความยากง่ายในการติดวอลเปเปอร์ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของวอลเปเปอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งส่งผลต่อการทำความสะอาดและระยะเวลาการใช้งานในอนาคต สำหรับขนาดของวอลเปเปอร์โดยปกติจะแบ่งเป็นวอลเปเปอร์หน้าแคบ ซึ่งเป็นวอลเปเปอร์ขนาดมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วไป และได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยขนาดหน้ากว้าง 53 เซนติเมตร และความยาว 10 เมตร สามารถรีดไล่ฟองอากาศได้ง่ายและรวดเร็วกว่าวอลเปเปอร์ชนาดหน้ากว้างที่มีขนาดตั้งแต่ 70-150 เซนติเมตร และความยาวต่อม้วนประมาณ 10-50 เมตร รวมถึงวอลเปเปอร์ชนิด Border เป็นวอลเปเปอร์แถบคาดขนาดเล็กประมาณ 5-50 เซนติเมตร[/vc_column_text][/vc_column][vc_column

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text] แม้จะสนุกสุดเหวี่ยงกับงานปาร์ตี้แค่ไหน แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถ้าไม่อยากให้ตอนจบกลายเป็นฝันร้ายของเจ้าบ้านที่ต้องจัดการกับภาระยิ่งใหญ่ที่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ภาชนะกองโต โดยเฉพาะคราบสกปรกทั้งหลายที่ทิ้งร่องรอยไว้ เรามีวิธีการทำความสะอาดบ้านหลังจากปิดฉากงานเลี้ยงให้สมบูรณ์แบบมาฝาก [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=".vc_custom_1556098579788{padding-top: 25px !important;padding-bottom: 25px !important;}"][vc_column width="1/2"][vc_column_text] จัดการกับพื้นบ้าน หลังจากเก็บกวาดภาชนะใสอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่รอยเปื้อนต่างๆ มักจะปรากฏตามพื้นและผนังให้ต้องจัดการ โดยเฉพาะถ้าบ้านเป็นพื้นปาร์เก้ที่ทำความสะอาดยาก ซึ่งถ้าละเลยหรือมองข้ามไปและทำให้คราบฝังลึก ตัวไม้อาจจะสึกเป็นรอยและสีซีดด่างได้ ดังนั้น เราควรทำความสะอาดกวาดเศษฝุ่นผงและใช้ผ้าหมาดเช็ดซ้ำ โดยไม่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะอาจจะกัดเนื้อไม้ให้เสียหายได้ เช่นเดียวกับพื้นกระเบื้องหินที่ไม่ควรใช้สารเคมีที่เป็นกรด เพราะจะทำลายเนื้อหินและเกิดรอยด่างได้ แต่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวที่เป็นหิน หินอ่อน หรือหินปูนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถนำมาละลายกับน้ำให้เจือจางและใช้ไม้ถูพื้นตามปกติ แม้แต่พื้นพรมที่มีร่องรอยความสกปรกหลงเหลือก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น คราบไวน์แดงที่หกเลอะเทอะ เราสามารถทำความสะอาดด้วยการใช้ฟองน้ำแห้งซับความชื้นออกจากพรมให้ได้มากที่สุด ก่อนจะใช้เกลือป่นลงบนคราบให้ทั่วและทิ้งไว้ 15 นาที จึงใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดให้หมดจด รวมถึงรอยจุดเล็กๆ บนพื้นพรม ซึ่งเราสามารถใช้ของคู่ครัวอย่างน้ำส้มสายชูจัดการ โดยผสมกับน้ำเปล่าจัดการได้ในสัดส่วนอย่างละ 1 ต่อ 4 ถ้วยตวง เพื่อนำมาขัดล้างบริเวณที่มีรอยคราบ[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width="1/2"][vc_single_image image="9363" img_size="full" alignment="center"][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width="1/2"][vc_single_image

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]ปัจจุบันคนหันมานิยมอยู่อาศัยบนคอนโดมิเนียมมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาก็คือ "พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด" ไม่ว่าจะออกแบบตกแต่งอะไรก็ต้องคิดให้ดี โดยเฉพาะ "ห้องนอน" ที่เป็นเหมือนหัวใจของห้องทุกประเภท[/vc_column_text][vc_column_text]หากตัดเตียงนอนออกแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งห้อง ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ห้องนอนของเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น มีชีวิตชีวา แต่คงไม่ดีแน่

  • เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าบ้านของสาวฝรั่งมักจะสวยและมีสไตล์ โดยเฉพาะห้องนอนของพวกเธอ เรียกได้ว่าครีเอทสร้างสรรค์กันสุดๆ ห้องของแต่ละคนก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง วันนี้จะพาสาวๆที่ชอบแต่งบ้านแต่งหอไปดูของแต่งบ้านแบบ D.I.Y. ที่ทำเองได้ไม่ต้องเสียตังค์ เผื่อสาวๆไทยอยากแต่งบ้านตามบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ!   1. แต่งตัวอักษรสวยๆด้วยตะปู 2. แต่งผนังด้วยด้ายหลากสี   3. เปลี่ยนซีดีเก่าๆมาเป็นของตกแต่งแบบยุค ’60   4. โมบายล์กระดาษน่ารัก     5. อีกหนึ่งไอเดียในการเก็บกระเป๋าและโชวกระเป๋าไปในตัว     6. แผ่นไม้ติดผนังแบบไล่สี     7. ผ้าม่านแบบถักรับแสง     8. ที่เก็บเครื่องประดับจากก้นขวดพลาสติก     9. ตกแต่งโต๊ะกระจกให้ดูสดใสด้วยเทปสีๆ   10. ที่โชว์รูปภาพด้วยไม้หนีบผ้า     11. ทำชั้นวางในห้องน้ำเก๋ๆด้วยแผ่นไม้     12. ทำขวดโหลเก็บเครื่องปรุงด้วยโหลพลาสติก ประหยัดเงินไปอีก 12 เหรียญ!     13. โคมไฟตกแต่งทำจากแก้วกระดาษ   สำหรับสาวๆที่ชอบตกแต่งบ้านแต่งหอและงาน DIY ก็คงชอบใจกันไม่น้อยใช่มั้ยละคะ ส่วนใครๆที่มีไอเดียดีๆ สวยๆน่ารักๆ ก็เอามาแชร์กันได้นะจ๊ะ เผื่อเราจะเอาไปโชว์ในแฟนเพจให้เพื่อนๆได้ชื่นชมกันบ้าง ขอบคุณแหล่งที่มา : girlsallaround

  • รวมรีวิวจัดสวนหน้าบ้าน สำหรับผู้ที่กำลังมองหาไอเดียและแบบจัดสวนหน้าบ้านดี ๆ รับรองว่ามีให้เลือกหลากหลายสไตล์แน่นอนพื้นที่หน้าบ้าน ไม่ว่าจะมาก น้อย กว้าง หรือแคบสักแค่ไหน อย่างไรคนส่วนใหญ่ก็นิยมทำเป็นสวนสวย ๆ เพื่อเพิ่มความร่มรื่นและน่าอยู่ให้กับตัวบ้านอยู่ดี ทว่าถ้าหากว่าคุณยังไม่มีไอเดียหรือแบบจัดสวนหน้าบ้านในดวงใจ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมรีวิวจัดสวน ที่มีทั้งแบบประหยัด งบน้อย พื้นที่กว้าง พื้นที่แคบ ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวมาฝากกันแล้ว แถมต้องบอกเลยว่าแต่ละรีวิวนั้นเป็นการจัดสวนแบบง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ไม่ยากเลยด้วย เอาเป็นว่าจะมีตัวอย่างสวนหน้าบ้านแบบไหนบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ   1. แต่งสวนหน้าบ้านเดี่ยวสองชั้น พร้อมสนามหญ้าเล็ก ๆ และโรงรถซุ้มไม้เลื้อย ด้วยความที่เป็นบ้านเดี่ยว จึงทำให้หน้าบ้านของ คุณ average สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีพื้นที่อยู่พอสมควร ดังนั้นเขาและภรรยาจึงไม่รอช้า ตัดสินใจเนรมิตพื้นที่โล่งหน้าบ้านให้กลายเป็นสวนสวย ซึ่งต้องบอกเลยว่าบรรยากาศของสวนแห่งนี้เหมาะที่จะเป็นสวนต้นแบบมาก ๆ เพราะเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวขจี ต้นไม้น้อยใหญ่ ปลาทองตัวโต และโรงจอดรถซุ้มไม้เลื้อยสุดเก๋ แถมยังมีเหล่านกน้อยที่คอยแวะเวียนมาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย เอาเป็นว่าใครที่อยากได้ไอเดียจัดสวนหน้าบ้านพื้นที่กว้างดี ๆ รีวิวนี้ถือเป็นตัวอย่างที่เจ๋งมาก ๆ เลยล่ะ   2. จัดสวนหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์ มีน้ำตกเล็ก ๆ เริ่มแรกนั้น คุณ oatundertown สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ยังไม่มีไอเดียดี ๆ

  • [vc_row][vc_column][vc_column_text]ไอเดียในวันนี้เป็นไอเดียปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่อยุ่มานานให้เสมือนแบบบ้านหลังใหม่  มาในงบประมาณแสนถูก ทำได้เอง ตามมาชมไอเดียแต่งบ้านในราคาประหยัดพร้อมๆกับเราเลย[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]1.ทาสีผนังใหม่หรือเลือกใช้วอลเปเปอร์   สถานที่: เอ สเปซ มี สุขุมวิท 77 ตกแต่งภายในบ้านใหม่ด้วยการลงทุนเลือกซื้อสีทาภายในที่ชอบมาซักกระป๋อง แล้วเลือกวันว่างๆสุดสัปดาห์ รวมพลคนในครอบครัวให้มาช่วยกันทาสีห้องใหม่ ไม่เพียงแต่จะได้ห้องที่แปลกตาไปจากเดิม แต่ยังได้ร่วมทำกิจกรรมกันในครอบครัว หรือจะลองหาวอลเปเปอร์มาติดก็ได้ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะมาก เพียงเท่านี้ผนังห้องเรียบๆสีขาวก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รับรองได้ว่าคุ้มค่าการลงทุนอย่างแน่นอน ดูภาพเพิ่มเติมคลิก เอ สเปซ มี สุขุมวิท 77    2.ตกแต่งห้องใหม่   สถานที่: Noble Gable Watcharapol   ลองดูซิว่า ตอนนี้บ้านของคุณมีอะไรอยู่แล้วบ้าง มุมนั้นวางของรกเกินไปรึป่าว หรือว่ามีรูปสวยๆไปวางเก็บทิ้งไว้ในห้องเก็บของ ทำไมไม่ลองจัดแต่งบ้านใหม่ โดยเลือกเอาของที่คุณมีอยู่เดิมมาวางในมุมที่ โดยเฉพาะห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้าน เช่น โต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่าที่ลูกสาวไม่ใช้แล้ว ลองเอามาจัดวางในห้องรับแขก เป็นมุมไว้สำหรับโชว์ของ หรือว่าภาพฝีมือลูกชายสมัยยังเด็กที่ยังเก็บไว้ ลองเอามาประดับตกแต่งผนังบ้านของคุณดูสิ รับรองได้ว่าให้ความรู้สึกย้อนความหลังได้ดีทีเดียว ดูภาพเพิ่มเติมคลิก  Noble Gable Watcharapol    3.เลือกแสงอย่างชาญฉลาด   ลองติดตั้งตัวปรับระดับแสงให้กับสวิชไฟในห้องของคุณ รับรองได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึก รวมถึงสามารถปรับแสงให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละเวลาได้ด้วย  แต่ถ้าหากเป็นเรื่องยากเกินไปนัก  ลองเลือกโคมไฟเก๋ๆมาตั้งสองข้างขนาบกับโซฟาตัวโปรดของคุณในห้องนั่งเล่น  หรือจะเปลี่ยนที่ครอบอันใหม่ให้เรียบหรู ดูมีสไตล์กว่าเดิมก็ไม่ว่ากัน   4.หมอนอิงช่วยได้   สถานที่: Beat Hotel Bangkok ถ้าหากว่าการลงทุนซื้อโซฟาตัวใหม่ซักตัว ทำให้คุณต้องคิดหนักเรื่องราคาแล้วหล่ะก็ ขอแนะนำว่าเพียงเลือกหมอนอิงลายสวยเก๋ถูกใจหลายๆใบมาวางประดับลงบนโซฟาตัวเก่า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เหมือนกการแต่งห้องใหม่ หมอนใหม่

  • เวลาดูนิตยสาร แต่งบ้าน แล้วได้แต่ร้องโอ้โห สวยจัง กิเลสมา และสตางค์หมดทุกที แต่แต่งออกมาแล้วไม่เห็นสวยอย่างที่เห็นตามนิตยสาร หรือ ห้องตัวอย่างตามโชว์รูมเลยสักที นั่นเป็นเพราะ นักออกแบบตกแต่งภายใน ได้คิดรูปแบบการจัดวางมาแล้วอย่างชาญฉลาด เพื่อเป็นตัวอย่างในการจัดห้องให้ดูน่าอยู่ สบายตา งั้นเรามาลองเรียนรู้เคล็ดลับในการแต่งบ้านในฉบับของนักออกแบบกันซะหน่อย เอาไว้ใช้แต่งบ้านตัวเองกันนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะดี และนี่คือ สิ่งที่เราควรทำเพื่อแต่งบ้านให้ดูสวย มีเสน่ห์เหมือนอย่างที่เราได้เห็นตามนิตยสารกันดูบ้างเนอะ 1.เลือกสีให้เหมาะ โทนสีของห้องจะเปลี่ยนความรู้สึกได้ทันทีที่มองเห็น ตัวอย่างเช่น สีสว่างจะสามารถช่วยเปลี่ยนห้องเล็กๆ ให้ดูมีพื้นที่มากขึ้น จนถึงขั้นมีการสรุป 50 เฉดสีเบจยอดนิยมในการแต่งบ้านที่ทำให้บ้านดูสวยแพงได้เลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะมีเพียง สีเบจ เท่านั้นที่สวยซะเมื่อไหร่กันล่ะ? ออกจากคอมฟอร์ทโซนค่ะ คุณสามารถเลือกสีฟ้าสว่าง สีม่วงลาเวนเดอร์ สีเขียวมิ้นท์ หรือสีเทาเฉดอื่นๆ ในการแต่งบ้านได้เช่นกัน โดยสีเหล่านี้จะทำให้ดูสดใสมากขึ้นแต่ไม่ลดความหรูหราของห้อง 2.เลือกลงน้ำหนักของสีให้ถูกจุด เฟอร์นิเจอร์สีสดใสภายในห้องสีโมโนโทนจะช่วยทำให้การแต่งห้องดูโดดเด่นขึ้นได้ โดยสิ่งที่จะเป็นไฮไลท์ให้กับห้องของเราได้นั่นคือ ปลอกหมอนสีสดๆ พรมลายเก๋ๆ โคมไฟสวยๆ หรือการเพ้นท์ผนังก็ช่วยเติมจุดเด่นให้กับห้องได้ทั้งสิ้นค่ะ 3.อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ  กล้าที่จะลองใช่แค่เพียงกับเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่อย่างเรื่องพื้นๆ ใช่ค่ะ “พื้น” นี่ล่ะที่น่าลอง จำไว้ว่า หากแต่งพื้นให้โดดเด่นแล้ว ก็ควรจะควบคุมการตกแต่งในส่วนอื่นๆ ของห้องด้วยเช่นกัน     4.

[/vc_column][/vc_row]

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอันเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์ กลุ่มบริษัทอรสิรินจำกัด (บริษัทฯ) ได้เห็นความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลากรและลูกค้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ทราบถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้คือ

2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ใช้บังคับในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำสัญญาที่มีบริษัทเป็นคู่สัญญา และให้รวมไปถึงข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปฏิบัติเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นหลักสำคัญโดยวิธีการอันเปิดเผย และเป็นธรรม ซึ่งการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้คือ:-

2.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล , พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา , ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.1.2 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.1.3 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.1.4 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.1.5 เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.6 เป็นการดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีฐานะเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น ๆ

2.1.7 เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อยื่นขออนุมัติจากสถาบันการเงิน

2.1.8 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

2.2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายใต้มาตราการป้องกัน โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะใช้เพื่อการติดต่อและเสนอบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้เพื่อยื่นข้อเสนออื่น ๆ อันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทหรือบริษัทภายในเครือ และใช้เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าวต่าง ๆ ให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบและบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคคลไว้ภายใต้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลากรของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือถูกนำไปเปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล หรือนำไปหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

2.3 สิทธิและความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือยินยอมให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรักษาไว้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์มาจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาทตามกฎหมาย ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอเปิดเผยสามารถแจ้งความประสงค์มาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือมายังบริษัทพร้อมกับเอกสารแสดงสิทธิที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

2.4 ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ไว้ตามกำหนดระยะเวลาการใช้งานข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ให้บริษัททำการโอน ลบ หรือทำลายข้อมูลนั้น ๆ เสีย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้บริษัททราบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งมายังบริษัทโดยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินงานภายในบริษัท

3. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท

บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ

3.1 ด้านหลักเกณฑ์ทั่วไปของบริษัท

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ หรือจากการทำสัญญาต่าง ๆ เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงข้อมูลอื่นใดอันสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

                  3.1.2 หากบริษัทเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมทุกครั้งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 30 วัน

พร้อมกันนี้บริษัทจะวางมาตรการกำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น

                  3.1.3 บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายในฐานข้อมูลของบริษัท ทั้งนี้เพียงเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามสัญญาและการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้พ้นระยะเวลาการใช้งานไปแล้ว หรือได้พ้นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลประจำหน่วนงานไปแล้ว บริษัทจะทำการลบและทำลายข้อมูลดังกล่าวตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่บริษัทได้วางไว้

                  3.1.4 ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ภายในบริษัท บริษัทจะควบคุมการดำเนินการของหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ