เก็บกวาดบ้านหลังงานปาร์ตี้ ขจัดคราบร้ายให้อยู่หมัด

[vc_row][vc_column][vc_column_text]

แม้จะสนุกสุดเหวี่ยงกับงานปาร์ตี้แค่ไหน แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถ้าไม่อยากให้ตอนจบกลายเป็นฝันร้ายของเจ้าบ้านที่ต้องจัดการกับภาระยิ่งใหญ่ที่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ภาชนะกองโต โดยเฉพาะคราบสกปรกทั้งหลายที่ทิ้งร่องรอยไว้ เรามีวิธีการทำความสะอาดบ้านหลังจากปิดฉากงานเลี้ยงให้สมบูรณ์แบบมาฝาก

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=”.vc_custom_1556098579788{padding-top: 25px !important;padding-bottom: 25px !important;}”][vc_column width=”1/2″][vc_column_text]

จัดการกับพื้นบ้าน

หลังจากเก็บกวาดภาชนะใสอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่รอยเปื้อนต่างๆ มักจะปรากฏตามพื้นและผนังให้ต้องจัดการ โดยเฉพาะถ้าบ้านเป็นพื้นปาร์เก้ที่ทำความสะอาดยาก ซึ่งถ้าละเลยหรือมองข้ามไปและทำให้คราบฝังลึก ตัวไม้อาจจะสึกเป็นรอยและสีซีดด่างได้
ดังนั้น เราควรทำความสะอาดกวาดเศษฝุ่นผงและใช้ผ้าหมาดเช็ดซ้ำ โดยไม่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะอาจจะกัดเนื้อไม้ให้เสียหายได้ เช่นเดียวกับพื้นกระเบื้องหินที่ไม่ควรใช้สารเคมีที่เป็นกรด เพราะจะทำลายเนื้อหินและเกิดรอยด่างได้ แต่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวที่เป็นหิน หินอ่อน หรือหินปูนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถนำมาละลายกับน้ำให้เจือจางและใช้ไม้ถูพื้นตามปกติ

แม้แต่พื้นพรมที่มีร่องรอยความสกปรกหลงเหลือก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น คราบไวน์แดงที่หกเลอะเทอะ เราสามารถทำความสะอาดด้วยการใช้ฟองน้ำแห้งซับความชื้นออกจากพรมให้ได้มากที่สุด ก่อนจะใช้เกลือป่นลงบนคราบให้ทั่วและทิ้งไว้ 15 นาที จึงใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดให้หมดจด รวมถึงรอยจุดเล็กๆ บนพื้นพรม ซึ่งเราสามารถใช้ของคู่ครัวอย่างน้ำส้มสายชูจัดการ โดยผสมกับน้ำเปล่าจัดการได้ในสัดส่วนอย่างละ 1 ต่อ 4 ถ้วยตวง เพื่อนำมาขัดล้างบริเวณที่มีรอยคราบ[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”9363″ img_size=”full” alignment=”center”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”9367″ img_size=”full” alignment=”center”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_column_text]

ขจัดคราบน้ำมัน

นอกเหนือจากรอยเปื้อนที่พื้นแล้ว คราบน้ำมันยังเป็นอีกภาระที่เราต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็น รอยน้ำสลัด มายองเนส โลชั่น ซึ่งเราสามารถใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูชุบน้ำผสมเบกกิ้งโซดานำมาขัดออกได้ หรือใช้น้ำอุ่นช่วยขจัดคราบที่ฝังแน่นให้ขัดง่ายขึ้น
ขณะที่คราบน้ำมันส่วนใหญ่มักติดอยู่ในห้องครัวมากที่สุด ซึ่งเราควรใช้น้ำยาทำความสะอาดในบริเวณที่เลอะน้ำมัน โดยใช้กระดาษชำระปูทับและทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้คราบน้ำมันติดกระดาษชำระ จากนั้นจึงเช็ดซ้ำอีกครั้งให้สะอาด ส่วนคราบน้ำมันที่อยู่บนเตาแก๊สในห้องครัว เราสามารถใช้น้ำต้มข้าวต้มเช็ด โดยรอให้น้ำข้าวจับตัวแห้งเป็นแผ่นและลอกออกได้อย่างง่ายดาย

สำหรับคราบเขม่าบนผนังห้องครัว เรายังสามารถจัดการทำความสะอาดได้ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดกำจัดฝุ่น และนำน้ำยาซักผ้าขาวประมาณ 2 ถ้วยผสมกับน้ำอุ่น 1 ถังและน้ำสบู่ 6 ถ้วย โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมเรียบร้อยมาเช็ดผนังที่เลอะคราบเขม่าสกปรกได้[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row css=”.vc_custom_1556098928322{padding-top: 25px !important;padding-bottom: 25px !important;}”][vc_column][vc_single_image image=”9370″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

รอยเปื้อนอาหารและเครื่องดื่ม

หากเป็นรอยเปื้อนบนผ้าปูโต๊ะปกติเราอาจจะยังสามารถทำความสะอาดด้วยการซักล้างได้ไม่ยาก โดยใส่พริกไทยดำผสมในน้ำยาซักผ้าเล็กน้อย เพื่อให้เส้นใยผ้าของผ้าปูโต๊ะคงสีสันสดใส เพราะการซักอาจจะทำให้ผ้าปูโต๊ะสีซีดจางได้ รวมถึงการซักทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ โดยเฉพาะรอยเปื้อนคราบกาแฟ น้ำผลไม้ เบียร์ ไวน์ เหล้า เพราะจะยิ่งทำให้รอยเปื้อนติดคงทนกว่าเดิม แต่ควรใช้ผ้าขนหนูหรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่นขัดออก หรือใช้น้ำยาขจัดเชื้อราเป็นตัวช่วยให้ขัดออกง่ายขึ้น
นอกจากนั้น คราบแห้งจากซอสที่เปื้อนผ้าปูโต๊ะ เรายังสามารถซักล้างด้วยการแช่ผ้าลงในน้ำเย็นผสมสบู่ล้างมือครึ่งช้อนชาและน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ โดยทิ้งไว้ 30 นาทีจึงใช้น้ำสะอาดล้างออก หากยังมีคราบเหลือก็ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบไคลทำความสะอาดอีกครั้ง และซัดด้วยน้ำอุ่น ก่อนจะเป่าให้แห้ง แต่ถ้ายังออกไม่หมดก็ให้แช่ในน้ำยาซักผ้าประมาณ 20 นาทีและใช้น้ำอุ่นทำความสะอาดอีกครั้ง แต่ห้ามใช้ความร้อนขณะที่คราบยังไม่ออกเด็ดขาด เพราะจะมีผลให้คราบยิ่งติดแน่นฝังลึกมากขึ้น โดยรอยเปื้อนที่ติดเป็นคราบแห้งกรัง เราอาจจะลองใช้แอลกอฮอลล์สำหรับทำแผลและสเปรย์แต่งผมช่วยขจัดคราบ ด้วยการใช้แอลกอฮอลล์ และสเปรย์ฉีดลงบนคราบเปื้อนและเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย
ส่วนโต๊ะรับแขกที่ไม่มีผ้าปูรองเปื้อนไว้มักจะปรากฎรอยคราบน้ำของเครื่องดื่มเป็นวงๆไม่สวยงาม ซึ่งเราควรรีบทำความสะอาด ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำแตะยาสีฟันเล็กน้อย เพื่อนำมาขจัดคราบและใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้หมดจด

ขอบคุณที่มา ddproperty.com[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทั้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอันเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์ กลุ่มบริษัทอรสิรินจำกัด (บริษัทฯ) ได้เห็นความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลากรและลูกค้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ทราบถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้คือ

2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

ใช้บังคับในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำสัญญาที่มีบริษัทเป็นคู่สัญญา และให้รวมไปถึงข้อมูลที่บริษัทได้รับมาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปฏิบัติเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นหลักสำคัญโดยวิธีการอันเปิดเผย และเป็นธรรม ซึ่งการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้คือ:-

2.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล , พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา , ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.1.2 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.1.3 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.1.4 เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.1.5 เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2.1.6 เป็นการดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีฐานะเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น ๆ

2.1.7 เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อยื่นขออนุมัติจากสถาบันการเงิน

2.1.8 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

2.2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายใต้มาตราการป้องกัน โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะใช้เพื่อการติดต่อและเสนอบริการให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้เพื่อยื่นข้อเสนออื่น ๆ อันเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทหรือบริษัทภายในเครือ และใช้เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าวต่าง ๆ ให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบและบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคคลไว้ภายใต้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลากรของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือถูกนำไปเปิดเผยโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล หรือนำไปหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

2.3 สิทธิและความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือยินยอมให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรักษาไว้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์มาจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาทตามกฎหมาย ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอเปิดเผยสามารถแจ้งความประสงค์มาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือมายังบริษัทพร้อมกับเอกสารแสดงสิทธิที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

2.4 ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ไว้ตามกำหนดระยะเวลาการใช้งานข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ให้บริษัททำการโอน ลบ หรือทำลายข้อมูลนั้น ๆ เสีย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้บริษัททราบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแจ้งมายังบริษัทโดยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินงานภายในบริษัท

3. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท

บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ

3.1 ด้านหลักเกณฑ์ทั่วไปของบริษัท

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากทางสื่อออนไลน์ หรือจากการทำสัญญาต่าง ๆ เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงข้อมูลอื่นใดอันสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

                  3.1.2 หากบริษัทเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมทุกครั้งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่า 30 วัน

พร้อมกันนี้บริษัทจะวางมาตรการกำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น

                  3.1.3 บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ภายในฐานข้อมูลของบริษัท ทั้งนี้เพียงเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามสัญญาและการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้พ้นระยะเวลาการใช้งานไปแล้ว หรือได้พ้นระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลประจำหน่วนงานไปแล้ว บริษัทจะทำการลบและทำลายข้อมูลดังกล่าวตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่บริษัทได้วางไว้

                  3.1.4 ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ภายในบริษัท บริษัทจะควบคุมการดำเนินการของหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด

Ornsirin Group โครงการคุณภาพสำหรับคุณ